วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ไวน์ไทยและทั่วโลก

ว่ากันว่า ไวน์ทั้งโลก กะคร่าว ๆ น่าจะมีอยู่กว่าครึ่งแสนยี่ห้อ แยกตามสายพันธุ์องุ่นก็จะมีอยู่ที่หลายร้อยสาย แบ่งตามประเทศผู้ผลิตคงมีกันอยู่สักครึ่งร้อย จำแนกแยกออกเป็นสไตล์ก็มีอยู่ไม่เกินยี่สิบ ดูกันตามสีก็ได้อยู่ไม่เกินห้า แต่ถ้าว่ากันตรงความยิ่งใหญ่ที่ผูกพันกับเวลา ก็จะมีเพียงแค่สอง...เท่านั้น นั่นคือ ไวน์จากโลกเก่า-โลกใหม่
ชมตลาดไวน์
          ระหว่างพวกเราเพลิดเพลินฉลองปีใหม่กันอยู่ ผมก็ขออนุญาติเปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องหนัก ๆ มาเป็นเรื่องเบา ๆ เป็นการแบ่งปันความรู้ว่าด้วยเครื่องดื่มน้ำองุ่น ไวน์ แค่รู้พอเป็นไอเดียเท่านั้น มิได้มีปัญญาหาเงินซื้อมาดื่มหรือสะสมแต่อย่างใดไม่
ผมรู้จักไวน์ดังและแพงของฝรั่งเศสอยู่หลายยี่ห้อ
เริ่มต้นที่ไวน์ในกลุ่ม 5 อรหันต์อันประกอบด้วยชาโตมูตองรอธไชลด์ (Chateau Mouton Rothschild)
Chateau Mouton Rothschild
ชาโตลาฟิตรอธไชลด์(Chateau Lafite Rothschild)
   Chateau Lafite  Rothschild
ชาโตลาตูร์ (Chateau Latour)
 Chateau Latour 1982
ชาโตมาโกช์ (Chateau Margaux)
  Chateau Margaux 1982
และชาโตโอบริยอง(Chateau Haut Brion)
 Chateau Haut Brion 1982
          เหล่านี้เป็นโคตรไวน์มหาเศรษฐีผู้มีรสนิยมสะสมกันกว้างขวาง ปีทองของเขาได้แก่ 1982 โดยในกลุ่มนี้ ลาฟิต ยืนราคาสูงสุด จากข้อมูลอินเทอร์เน็ต ขวดละ 2,990 ยูโร คูณด้วย 49 ก็ประมาณ 146,000 บาทยังไม่รวมภาษี
ขณะที่มูตองปีเดียวกันราคา 1,570 ยูโร หรือ 77,000 บาท น่าสังเกตว่าย้อนไปหลายปีก่อนราคามูตองสูงกว่าลาฟิตราว ๆ 20% แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว ส่วนลาตูร์ปีเดียวกันอยู่ที่ 2,100 ยูโรหรือ 102,900 บาท มาร์โกซ์อยู่ที่ 1,340 ยูโร หรือ 65,600 บาท และโอบริยองอยู่ที่ 999 ยูโร หรือ 49,000บาท
ไวน์ที่โคตรแพงจริง ๆ สำหรับปีทอง 1982 คือ เปตรุส (Petrus) 4,590 ยูโร หรือ 225,000 บาท อันนี้ต่อขวดนะครับไม่ใช่ต่อลัง
 Petrus 1982
          ปีทองของไวน์ฝรั่งเศสอีกปีก็ 2000 อย่างเปตรุสก็ 3,900 ยูโร (191,000 บาท) ขณะที่ลาฟิต 1,690 ยูโร (83,000 บาท) และ มูตอง 1,090 ยูโร (54,000 บาท)
ปี 2005 ก็เป็นปีเก่งของไวน์ฝรั่งเศสแถวบอร์กโดซ์ พอมเมอรอล เช่นเดียวกับปี 1995
ไวน์ในกลุ่มนี้อีกยี่ห้อที่มนุษย์เดินดินธรรมดาต้องอยู่ห่าง ๆ ได้แก่ เลอแปง (Le Pin) ของพอมเมอรอล ปีทองของไวน์ทางนี้ก็ปี 1990 ขวดละ 3,390 ยูโร หรือ 166,000บาท และปี 2005 ราคาเดียวกัน
Le Pin 1990
          ว่ามาทั้งหมดนั้นเป็นไวน์แดง เคยดื่มไวน์ขาวหรือที่เขาเรียกพิเศษว่าไวน์หวาน ยี่ห้อ ดีเคี่ยม(d’Yquem) นัยว่าผลิตจากองุ่นสุกที่จวนเจียนจะเน่าของปี 2005 ราคา 659 ยูโร (32,000 บาท)
Chateau d, yquem 2005
          แต่ไวน์ที่โคตรแพงจริง ๆ เป็นไวน์เบอกันดี ยี่ห้อโรมาเน่-กองติ (Romanee-Conti)
Most expensive wine Romanee-Conti
          อันนี้เป็นไวน์โปรดของอดีตนายกฯ ประเทศไทยท่านหนึ่ง เคยนำไปมอบให้กับอดีตนายกฯ ประเทศไทยอีกท่านหนึ่ง บังเอิญอดีตนายกฯ ผู้นี้ไม่ค่อยรู้เรื่องไวน์ จึงถูกอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งมาตลกบริโภคเรียบวุธ
ปีทองของยอดไวน์แห่งเบอกันดีคือ 1985 ราคาขายไม่รวมภาษี 10,990 ยูโร หรือ 538,000 บาท ก็ซื้อรถยนต์ขนาดกลางได้หนึ่งคันสบาย ๆ โรมาเน่กองติปี 1990 ก็ใช่ย่อย ขวดละ 9,900 ยูโร หรือ 485,000 บาท จะว่าไปไวน์ขานี้โคตรแพงทุกปี เพราะของมีน้อยและคุณภาพคับขวด อย่างปี 2003 ก็ยังขายที่ 7,990 ยูโร ก็ปาเข้าไปตั้ง 392,000 บาท
เล่าให้ฟังอีกว่า อดีตนายกฯ ของประเทศไทยที่ผมเอ่ยถึงก่อนหน้านี้ เคยซื้อตุนไว้หลายลัง
ไวน์เป็นเครื่องดื่มแปลก ที่ว่ามาจัดเป็นยอดไวน์เป็นโคตรไวน์ ขณะที่ไวน์ราคาถูก ๆ ก็เยอะมาก ขวดละเป็นพันบาทลงมาถึงไม่กี่ร้อยบาท


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น